กฎหมาย พระราชบัญญัติวิธีพิจารณายาเสพติด พ.ศ.๒๕๕๐
กฎกระทรวง ว่าด้วยการแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำความผิด ฐานสนับสนุน ช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๖๕ Add to Bookmark Share
กฎกระทรวง ว่าด้วยการแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำความผิด ฐานสนับสนุน ช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๖๕
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๑๑/๗ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑* การขออนุมัติแจ้งข้อหาในกรณีที่ศาลออกหมายจับแก่ผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๑๒๕ หรือมาตรา ๑๒๗ แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบรายงานหัวหน้า พนักงานสอบสวนและให้หัวหน้าพนักงานสอบสวนยื่นคำขออนุมัติแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำความผิดดังกล่าว ต่อเลขาธิการ ป.ป.ส. หรือผู้ซึ่งเลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมายโดยเร็ว
การขออนุมัติแจ้งข้อหาตามวรรคหนึ่ง หากเป็นกรณีที่เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เป็นผู้ดําเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานจนทราบรายละเอียดแห่งความผิดและรู้ตัวผู้กระท่าความผิด ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. มีอํานาจยื่นคําขออนุมัติแจ้งข้อหาต่อเลขาธิการ ป.ป.ส. หรือผู้ซึ่งเลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมาย ก่อนร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนต่อไป
*ข้อ ๑ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดย กฎกระทรวง ว่าด้วยการแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทําความผิดฐานสนับสนุน ช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทําความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๗ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๔๑ ตอนที่ ๑๙ ก หน้า ๑๔ วันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๗
ข้อ ๒ คำขอตามข้อ ๑ ต้องระบุชื่อผู้กระทำความผิดซึ่งประสงค์จะขอแจ้งข้อหาให้ชัดแจ้ง พร้อมแนบเอกสารหรือหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(๑) สถานภาพส่วนบุคคลของผู้กระทำความผิด เช่น ประวัติบุคคลหรือประวัติอาชญากร
(๒) รายงานการสืบสวนพฤติการณ์สำคัญที่เป็นมูลเหตุให้ทำการสืบสวน ข่าวสาร แหล่งที่มา วันเวลาเริ่มสืบสวนพฤติการณ์ที่ผ่านมา และพฤติการณ์การกระทำความผิดในคดีนี้
(๓) พยานหลักฐานที่ยืนยันการกระทำความผิดในข้อหาที่จะขออนุมัติ
(๔) รายละเอียดในคดีความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เช่น ข้อหาผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติด
(๕) สำเนาหมายจับ
ข้อ ๓ ในกรณีที่ผู้ต้องหาถูกจับกุมในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฐานอื่น หากพนักงาน สอบสวนผู้รับผิดชอบในการสอบสวนเห็นว่าการกระทำของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในคดีนั้นเป็นความผิด ตามมาตรา ๑๒๕ หรือมาตรา ๑๒๗ แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติดด้วย ให้พนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบรายงานหัวหน้าพนักงานสอบสวนและให้หัวหน้าพนักงานสอบสวนยื่นคำขออนุมัติแจ้งข้อหา แก่ผู้กระทำความผิดดังกล่าวต่อเลขาธิการ ป.ป.ส. หรือผู้ที่เลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมายโดยเร็ว
ให้นำความในข้อ ๒ มาใช้บังคับแก่การยื่นคำขออนุมัติแจ้งข้อหาตามวรรคหนึ่งโดยอนุโลม
ข้อ ๔ ในกรณีที่พนักงานสอบสวนส่งสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการเพื่อฟ้องคดีแล้ว ถ้าพนักงานอัยการเห็นควรแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๑๒๕ หรือมาตรา ๑๒๗ แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติดเพิ่มเติม ให้หัวหน้าพนักงานอัยการ หัวหน้าองค์คณะหรือหัวหน้าคณะทำงาน ซึ่งมีตำแหน่งไม่ต่ำกว่าหัวหน้าพนักงานอัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ผู้กระทำความผิดดังกล่าว
คำสั่งของพนักงานอัยการตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าเป็นการอนุมัติให้แจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดี ตามมาตรา ๑๑/๗ แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔
ข้อ ๕ ในการพิจารณาคำขออนุมัติแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีนั้น เลขาธิการ ป.ป.ส. หรือผู้ที่ เลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมายอาจเรียกให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจผู้ทำการสืบสวน พนักงาน สอบสวน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำหรือส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติม หรือแต่งตั้งบุคคลหรือ คณะบุคคล หรืออาจเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้แต่งตั้งบุคคลหรือคณะบุคคล เพื่อพิจารณา ตรวจสอบกลั่นกรองพยานหลักฐานในคำขออนุมัติแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๑๒๕ หรือ มาตรา ๑๒๗ แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด เพื่อประกอบการพิจารณาได้
ข้อ ๖ ให้เลขาธิการ ป.ป.ส. หรือผู้ที่เลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมายพิจารณาคำขออนุมัติ แจ้งข้อหาให้แล้วเสร็จภายในห้าวันทำการนับแต่วันที่ได้รับคำขอ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นจะขยายเวลาออกไป อีกได้ไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกินห้าวันทำการ โดยต้องบันทึกเหตุจำเป็นดังกล่าวไว้ด้วย เมื่อเลขาธิการ ป.ป.ส. หรือผู้ที่เลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมายได้มีคำสั่งประการใดแล้ว ให้มีหนังสือแจ้งคำสั่งให้ผู้ขออนุมัติทราบโดยเร็วหรือจะให้ผู้ขออนุมัติลงลายมือชื่อรับทราบในคำสั่งนั้นก็ได้
ข้อ ๗ ในกรณีที่ได้รับอนุมัติให้แจ้งข้อหาจากเลขาธิการ ป.ป.ส. หรือผู้ที่เลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมาย ให้พนักงานสอบสวนรีบดำเนินการตามที่ได้รับอนุมัติ แล้วรายงานการแจ้งข้อหาให้เลขาธิการ ป.ป.ส. หรือผู้ที่เลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมายทราบโดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องไม่เกินสามวันนับแต่วันที่ ได้ดำเนินการตามที่ได้รับอนุมัตินั้น
ในกรณีไม่สามารถดำเนินการตามที่ได้รับอนุมัติได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันได้รับแจ้งคำสั่ง อนุมัติ ให้รายงานคดีตามคำสั่งอนุมัติให้แจ้งข้อหาให้เลขาธิการ ป.ป.ส. หรือผู้ที่เลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมายทราบโดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องไม่เกินสามวันนับแต่วันที่ครบกำหนดดังกล่าว
ในกรณีได้รับอนุมัติให้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมจากพนักงานอัยการ ให้พนักงานสอบสวนรายงาน การแจ้งข้อหาพร้อมทั้งส่งสำเนาสำนวนคดีดังกล่าวให้เลขาธิการ ป.ป.ส. หรือผู้ที่เลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมายทราบทันที
ข้อ ๘ ในการรายงานตามข้อ ๗ ให้รายงานด้วยว่ามีหรือได้รับข้อมูลหรือหลักฐานเกี่ยวกับ ทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๑๒๕ หรือมาตรา ๑๒๗ แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่ถูกจับกุม หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดของผู้กระทำความผิดดังกล่าวด้วยหรือไม่อย่างใด
การรายงานข้อมูลหรือหลักฐานเกี่ยวกับทรัพย์สินตามวรรคหนึ่ง ให้กระทำได้ทุกครั้งที่ได้รับ ข้อมูลหรือหลักฐาน
ข้อ ๙ คำขออนุมัติ หนังสือแจ้งคำสั่งอนุมัติ และการรายงานตามกฎกระทรวงนี้ ให้เป็นไป ตามแบบที่สำนักงาน ป.ป.ส. กำหนด การขออนุมัติ การอนุมัติ และการรายงานตามกฎกระทรวงนี้อาจดำเนินการโดยวิธีการทาง อิเล็กทรอนิกส์ได้ตามที่เลขาธิการ ป.ป.ส. ประกาศกำหนด
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๕
สมศักดิ์ เทพสุทิน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม